ถ้าคุณเคยลงโฆษณาบน Facebook เพราะต้องการให้ลูกค้ามาหน้าร้าน คุณอาจรู้สึกได้ว่ามีลูกค้ามาหน้าร้านเพิ่มขึ้นจริง แต่เราไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าโฆษณาบน Facebook นั้นได้ผลลัพธ์มากน้อยแค่ไหน มีคนเห็นโฆษณาบน Facebook แล้วมาเป็นลูกค้าจริงๆ กี่คน ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องใช้ Facebook Offline Events นั่นเอง
รู้จักกับ Facebook Offline Events
Facebook Offline Events คือเครื่องมือที่อยู่ใน Facebook Business Manager ใช้สำหรับวัดผลว่ามีคนที่มองเห็นเราบนโลกออนไลน์แล้วกลายมาเป็นลูกค้าหน้าร้านจริงๆ กี่คน โดยนำข้อมูลลูกค้าที่มาหน้าร้าน นำมาเปรียบเทียบกับ Facebook Pixel และโฆษณาของเราบน Facebook ครับ
Facebook Offline Events มีความสามารถอะไรบ้าง?
- Track Offline Activities ติดตามพฤติกรรมลูกค้าแบบออฟไลน์ได้ โดยนำข้อมูลที่ได้จากการขายสินค้า, จาก Call center หรือจากระบบ CRM ของเรา แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาเปรียบเทียบกับ User บน Facebook
- Measure Offline Attribution ติดตามยอดการซื้อขาย เปรียบเทียบกับยอดวิว หรือยอดคลิก เป็นต้น
- Target Offline Shoppe สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าออฟไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การสร้าง Lookalike จากลูกค้าที่มาหน้าร้านจริง เป็นต้น
วิธีใช้งาน Facebook Offline Events
1.เข้าใช้งาน Business Manager > คลิกที่ Offline Events
2.คลิกที่ Get Started
3.คลิก Select File เพื่ออัปโหลดข้อมูลลูกค้า
จากนั้นระบบก็จะตรวจสอบและเราก็จะได้รู้ว่ามีลูกค้าที่พบเจอเราในโลกออนไลน์และกลายมาเป็นลูกค้าจริงๆ มากน้อยแค่ไหนครับ
เมื่อลูกค้าไปที่หน้าร้าน เราควรเก็บข้อมูลอะไรบ้าง?
ข้อมูลที่ใช้กับ Facebook Offline Events แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- Customer details: ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า เช่น ชื่อ,อีเมล, เบอร์โทร ฯลฯ
- Event time: บันทึกเวลา เช่น เวลาที่ลูกค้าซื้อสินค้า
- Event details: เหตุการณ์ที่ลูกค้ากระทำ เช่น ซื้อสินค้า หรือลงทะเบียน
ดูข้อมูลตัวอย่างการเก็บข้อมูลจากลูกค้าได้ 2 วิธี
- วิธีที่ 1 คลิก Download example CSV file
- วิธีที่ 2 คลิก View Examples
เราสามารถนำ Example CSV file จากวิธีที่ 1 ไปบันทึกข้อมูลลูกค้าแล้วนำมาอัปโหลดจริงได้เลยครับ หรือจะดูตัวอย่างจากการ View Examples จากวิธีที่ 2 ก็ได้ เมื่อคลิกแล้วจะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมา ดังนี้
ตัวอย่างการเก็บข้อมูลลูกค้า
Name: คุณสมชาย Event time: 30/08/2019 เวลา 16.00 น.
Event details: ซื้อกระเป๋า ราคา 900 บาท
ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลทุกอย่างนะครับ อันไหนไม่ต้องการสามารถลบออกได้ แนะนำให้เก็บครบทั้ง 3 ประเภท จะทำให้ได้รับข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
จะเห็นได้ว่า Facebook Offline Events ช่วยให้เจ้าของธุรกิจที่มีหน้าร้านไม่ต้องกังวลว่าถ้าเสียค่าโฆษณาไปแล้ว จะได้ผลลัพธ์มากน้อยแค่ไหน หรือเว็บไซต์ของเรา ส่งผลให้ลูกค้ามาหน้าร้านได้จริงหรือไม่ เพราะเราสามารถ Track ลูกค้าที่เข้าร้านจริงๆ ได้แล้ว และเมื่อวัดผลลัพธ์ได้ ก็ทำให้เราสามารถนำมาปรับโฆษณาให้ดีขึ้นได้นั่นเอง ลองนำไปปรับใช้งานกันดูนะครับ
ข้อมูลอ้างอิงจาก: Facebook Business
#FacebookOfflineEvents #Facebook #MintedAcademy #MydigitalPartner