0

จากผู้ตามสู่ผู้นำ? Google เปิดตัว Gemini 2.5 – AI ที่ฉลาดที่สุดและเร็วที่สุด

22 พฤษภาคม 2025

เคยรู้สึกมั้ยครับว่าโลก AI ในตอนนี้เหมือนจะมีพระเอกแค่คนเดียว?
ตั้งแต่ ChatGPT โผล่มาเมื่อปลายปี 2022 โลกก็เปลี่ยนไปเหมือนถูกดูดเข้าไปในจักรวาล AI ที่ AI กลายมาเป็นเพื่อนคู่คิด และที่ปรึกษาธุรกิจส่วนตัวแบบ 24 ชั่วโมงในราคาไม่ถึงพันต่อเดือน
แต่จากงาน Google I/O เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา เราเห็นการเปิดตัว “ฮีโร่คนใหม่ในจักรวาล AI” ที่ชื่อ Gemini 2.5 เหมือนการเปิด “ซีซั่นใหม่ของ AI” ที่ท้าทายทุกค่ายทั่วโลก และนี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่สะท้อนว่า Google ไม่ได้มาเล่น ๆ — แต่กำลังลงสนามอย่างเต็มตัว พร้อมเปิดเกมใหม่ผ่านฟีเจอร์และเครื่องมือที่เปลี่ยนวิธีคิดและการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก ลองดูไปพร้อมกันว่า Google มีอะไรใหม่ให้เราตื่นเต้นบ้าง:

📍 Gemini 2.5: AI ที่ทั้ง ฉลาดที่สุด และ เร็วที่สุด จาก Google

หัวใจของทุกอย่างในงานปีนี้คือ Gemini 2.5 Pro

โมเดลตัวนี้ไม่ใช่แค่รุ่นอัปเกรดธรรมดา แต่คือการก้าวกระโดดแบบข้ามรุ่นของ AI โดยทางคุณ ซุนดาร์ พิชัย, CEO ของ Google เล่าบนเวทีนี้ว่า Gemini 2.5 ได้คะแนน Elo (คะแนนวัดความสามารถของโมเดล โดยเปรียบเทียบเหมือนการจัดอันดับในหมากรุก ยิ่งสูงยิ่งเก่ง) สูงขึ้นกว่าเดิม 300+ จุด ครองอันดับ 1 บน LMArena (ที่เปรียบได้กับโอลิมปิกของ AI) ทุกหมวดหมู่

ไม่ใช่แค่ฉลาด…แต่ยังเร็วสุดในตลาด ประมวลผลเร็วขึ้น สร้างโค้ดได้แม่นยำ และถูกนำไปใช้งานจริงในแพลตฟอร์มเขียนโค้ดชื่อดังอย่าง Cursor ที่นักพัฒนาเริ่มนำไปใช้จริงเพื่อเร่งความเร็วในการพัฒนาโปรแกรมอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือ ต้นทุนในการทำงานยังต่ำลงมาก

เรียกได้ว่า “แรง + เร็ว + คุ้ม” ในสูตรเดียว

📲 AI ที่ไม่แค่อยู่ในแล็บ…แต่ลงมาทำงานให้คุณจริง

ปีนี้ Google ไม่ได้โชว์แค่เทคโนโลยี แต่โชว์ว่า AI จะลงมาทำงานแทนเราได้จริงๆ

Gemini Live: ผู้ช่วย AI ที่ใช้กล้องและหน้าจอในการเข้าใจโลกแบบ Real-time และสามารถโต้ตอบกับเราในสถานการณ์จริงได้ทันที ตัวอย่างเช่น

  • หากคุณกำลังเตรียมตัวสมัครงาน AI สามารถสวมบทเป็นผู้สัมภาษณ์ ซักถาม และวิเคราะห์คำตอบของคุณได้เหมือนจำลองสถานการณ์จริง
  • หากคุณกำลังออกกำลังกาย มันสามารถวางแผนการวิ่ง ตรวจจับท่าทาง ให้คำแนะนำ และส่งเสียงกระตุ้นให้คุณเหมือนมีโค้ชอยู่ข้างๆ
  • หรือถ้าคุณกำลังวางแผนเดินทาง มันก็สามารถใช้กล้องช่วยระบุสถานที่ แนะนำจุดเที่ยวหรือร้านอาหาร พร้อมข้อมูลแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

Gemini Live จึงไม่ใช่แค่ AI ที่ตอบคำถามได้ แต่เป็นผู้ช่วยที่อยู่เคียงข้างคุณในทุกกิจกรรม

AI Mode ใน Search: เปลี่ยนประสบการณ์การค้นหาจากแค่การหาข้อมูล มาเป็นการได้รับคำตอบที่สรุปให้เสร็จสรรพในรูปแบบรายงานที่เข้าใจง่าย ยกตัวอย่างเช่น

  • ถ้าคุณค้นหาคำว่า “ย้ายบ้าน” ระบบจะสรุปข้อมูลทั้งหมดให้เลยในคลิกเดียว ทั้งเช็กลิสต์สิ่งที่ต้องทำ เอกสารที่เกี่ยวข้อง และเปรียบเทียบบริการขนย้ายจากผู้ให้บริการต่าง ๆ พร้อมลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
  • หรือถ้าคุณถามว่า “เปิดร้านกาแฟต้องเตรียมอะไรบ้าง” ระบบจะสรุปเป็นขั้นตอนชัดเจน เช่น การขอใบอนุญาต ค่าเช่าสถานที่ อุปกรณ์ที่ต้องซื้อ และยังแนะนำแผนการตลาดเบื้องต้นให้พร้อม
  • รวมถึงการพิมพ์แค่ชื่อหุ้น เช่น “Tesla” ระบบจะสร้างสรุปที่มีทั้งกราฟทางการเงิน ข่าวล่าสุด และบทวิเคราะห์แนวโน้มตลาดจากหลายแหล่งในหน้าเดียวแบบไม่ต้องคลิกเข้าเว็บอื่นเลย

นี่ไม่ใช่แค่ Search Engine อีกต่อไป แต่กลายเป็นเหมือนที่ปรึกษาที่เข้าใจความต้องการของเรา รับฟังสิ่งที่เราสนใจ และรวบรวมข้อมูลที่ไม่เพียงแค่ตรงคำถาม แต่ยังแนะนำสิ่งที่เราอาจคาดไม่ถึง พร้อมสรุปให้เข้าใจง่ายในแบบที่เอาไปใช้ตัดสินใจได้ทันที

Agent Mode: ตัวแทน AI ที่ “ลงมือทำแทน” ได้เลย ไม่ใช่แค่ช่วยหาข้อมูล แต่สามารถดำเนินการให้เสร็จในนามของเรา เช่น

  • หาห้องเช่า: ระบบสามารถกรอกความต้องการ เช่น งบประมาณ, ทำเล, สิ่งอำนวยความสะดวก และไปค้นหาให้ พร้อมส่งลิงก์ที่เหมาะสมที่สุด
  • จองนัด: ไม่ว่าจะเป็นการจองคิวตัดผม นัดพบแพทย์ หรือแม้แต่วางแผนนัดประชุม Agent Mode สามารถดูตารางของเรา ประสานเวลาที่ว่าง และจองให้เสร็จได้
  • ค้นหาข้อมูลพร้อมฟิลเตอร์ละเอียด: เช่น ถามหา “โน้ตบุ๊กน้ำหนักไม่เกิน 1.5 กิโล งบไม่เกิน 30,000 บาท” Agent Mode จะกรองและแนะนำตัวเลือกที่ตรงเงื่อนไขให้ทันที

ในงาน Google I/O ได้สาธิตให้เห็นว่า AI สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้จริงในระดับ task-based automation ที่ก่อนหน้านี้ต้องใช้หลายแอปและหลายขั้นตอน

Google ไม่ได้แค่อยากให้เราคุยกับ AI แต่กำลังบอกว่า…ให้ AI ทำแทนงานบางอย่างเลยก็ได้

🎨 เครื่องมือสร้างสรรค์ใหม่ที่ทำให้ครีเอเตอร์มีพลังเทียบโปร

ฝั่ง Content Creator ก็มีของใหม่หลายตัวน่าตื่นเต้น:

Imagen 4: โมเดลสร้างภาพจากข้อความรุ่นใหม่ของ Google ที่มีความแม่นยำสูงขึ้นมาก โดยสามารถสร้างภาพที่มีรายละเอียดซับซ้อน เช่น ตัวอักษรเล็ก ๆ บนป้ายหรือโลโก้ได้อย่างชัดเจน และรองรับการควบคุมองค์ประกอบภาพได้แม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งตำแหน่ง วัตถุ และสไตล์ของภาพ

Veo 3: โมเดลสร้างวิดีโอจากข้อความที่สามารถใส่เสียงพูด เสียงประกอบ และเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ได้แบบอัตโนมัติ พร้อมทั้งรองรับการสร้างวิดีโอความละเอียดสูง (up to 1080p) จากคำบรรยายเพียงไม่กี่ประโยค

Lyria 2: เครื่องมือสร้างเสียงดนตรีพร้อมเสียงร้องที่ใช้ AI ในการแต่งเพลงแบบครบวงจร รองรับหลายแนวเพลง สามารถให้ AI แต่งเมโลดี้ ใส่เสียงร้องตามเนื้อเพลง และปรับอารมณ์ของเพลงได้ตามคำสั่ง

Flow: เป็นระบบเวิร์กโฟลวแบบรวมศูนย์สำหรับครีเอเตอร์ ที่รวม Imagen, Veo และ Lyria เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้สามารถสร้างภาพ วิดีโอ ดนตรี และตัดต่อผลงานทั้งหมดได้ในแพลตฟอร์มเดียว โดยออกแบบมาเพื่อให้ทั้งมือใหม่และมืออาชีพสามารถสร้างผลงานคุณภาพสูงได้ง่ายและเร็ว

ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นแค่ “ของเล่นสนุก” แต่กลายเป็น “เครื่องมือสร้างอาชีพ” สำหรับคนทำงานยุคใหม่

👓 โลกใหม่ที่เราจะ “มองเห็น” ด้วย AI

ถ้าทุกสิ่งก่อนหน้านี้คือการ “ฟัง” และ “พูด” กับ AI — ไฮไลต์สุดท้ายของงานนี้คือการ “มองเห็น” โลกใหม่ด้วยตาของเราเอง ผ่านแว่นตาอัจฉริยะที่ Google ร่วมพัฒนากับ Samsung, Qualcomm และแบรนด์แว่นชั้นนำ

Android XR ไม่ได้เป็นแค่ระบบ AR/VR ทั่วไป แต่คือแพลตฟอร์มที่ให้คุณเดินไปตามท้องถนน แล้ว AI จะช่วยแนะนำร้านอาหาร พร้อมรีวิวและเมนูยอดนิยมแบบเรียลไทม์ หรือถ้าคุณอยู่ต่างประเทศ มันจะแปลภาษาจากบทสนทนาให้คุณทันทีผ่านเลนส์แว่น ไม่ต้องหยิบมือถือ ไม่ต้องพิมพ์อะไรเลย

สิ่งที่เคยอยู่ในหนังไซไฟ…กำลังมาอยู่ตรงหน้าเรา เพราะนี่ไม่ใช่แค่ “Smart Glasses” แต่มันคือ “Smart Perspective”  สร้างมุมมองใหม่ที่ผสานโลกจริงกับพลังของ AI เข้าไว้ด้วยกันแบบไร้รอยต่อ

🚀 พร้อมหรือยัง…ที่จะมอง Google ด้วยมุมใหม่?

จากบริษัทที่เคยถูกมองว่าเป็นผู้ตาม วันนี้ Google กำลังเปลี่ยนภาพนั้นอย่างสิ้นเชิง Google I/O ’25 ไม่ได้แค่มาอวดเทคโนโลยี แต่กำลังเขียนนิยามใหม่ของ “อนาคต” ให้กลายเป็น “ปัจจุบัน” ด้วย Gemini 2.5 และกองทัพเครื่องมือที่พร้อมใช้งานจริง

คำถามสำคัญคือ… เราจะใช้กันแต่ ChatGPT ต่อไป หรือจะลองกลับมาเปิดประสบการณ์ AI กับ ‘อากู๋’ ที่เราเคยไว้ใจในการหาคำตอบมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา?

แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญไม่แพ้เทคโนโลยีล้ำหน้าเหล่านี้ คือ “เราจะใช้ AI ไปเพื่ออะไร?”

เพราะหัวใจของการใช้ AI ไม่ได้อยู่ที่ว่าเราเลือกเครื่องมือไหน แต่คือเรามีเป้าหมายอะไรที่ชัดเจน แล้วใช้ AI มาเสริมศักยภาพของเราได้อย่างไร

ต่อให้ AI ฉลาดและเร็วแค่ไหน ถ้าเราไม่เข้าใจวิธีใช้ หรือใช้ผิดจุดประสงค์ มันก็ไม่ต่างจากการหยิบไขควงระดับโปรมาใช้แทนค้อน — เครื่องมือดีแค่ไหน ถ้าใช้ไม่ถูก ก็ไม่มีทางได้ผลลัพธ์ที่ดี