0

ดึงลูกค้าออนไลน์มาหน้าร้านด้วย FACEBOOK OFFLINE EVENTS

28 สิงหาคม 2019

ถ้าคุณเคยลงโฆษณาบน Facebook เพราะต้องการให้ลูกค้ามาหน้าร้าน คุณอาจรู้สึกได้ว่ามีลูกค้ามาหน้าร้านเพิ่มขึ้นจริง แต่เราไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าโฆษณาบน Facebook นั้นได้ผลลัพธ์มากน้อยแค่ไหน มีคนเห็นโฆษณาบน Facebook แล้วมาเป็นลูกค้าจริงๆ กี่คน ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องใช้ Facebook Offline Events นั่นเอง

รู้จักกับ Facebook Offline Events

Facebook Offline Events คือเครื่องมือที่อยู่ใน Facebook Business Manager ใช้สำหรับวัดผลว่ามีคนที่มองเห็นเราบนโลกออนไลน์แล้วกลายมาเป็นลูกค้าหน้าร้านจริงๆ กี่คน โดยนำข้อมูลลูกค้าที่มาหน้าร้าน นำมาเปรียบเทียบกับ Facebook Pixel และโฆษณาของเราบน Facebook ครับ

Facebook Offline Events มีความสามารถอะไรบ้าง?

  • Track Offline Activities ติดตามพฤติกรรมลูกค้าแบบออฟไลน์ได้ โดยนำข้อมูลที่ได้จากการขายสินค้า, จาก Call center หรือจากระบบ CRM ของเรา แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาเปรียบเทียบกับ User บน Facebook
  • Measure Offline Attribution ติดตามยอดการซื้อขาย เปรียบเทียบกับยอดวิว หรือยอดคลิก เป็นต้น
  • Target Offline Shoppe สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าออฟไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การสร้าง Lookalike จากลูกค้าที่มาหน้าร้านจริง เป็นต้น

วิธีใช้งาน Facebook Offline Events

1.เข้าใช้งาน Business Manager > คลิกที่ Offline Events

2.คลิกที่ Get Started

3.คลิก Select File เพื่ออัปโหลดข้อมูลลูกค้า

จากนั้นระบบก็จะตรวจสอบและเราก็จะได้รู้ว่ามีลูกค้าที่พบเจอเราในโลกออนไลน์และกลายมาเป็นลูกค้าจริงๆ มากน้อยแค่ไหนครับ

เมื่อลูกค้าไปที่หน้าร้าน เราควรเก็บข้อมูลอะไรบ้าง?

ข้อมูลที่ใช้กับ Facebook Offline Events แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. Customer details: ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า เช่น ชื่อ,อีเมล, เบอร์โทร ฯลฯ
  2. Event time: บันทึกเวลา เช่น เวลาที่ลูกค้าซื้อสินค้า
  3. Event details: เหตุการณ์ที่ลูกค้ากระทำ เช่น ซื้อสินค้า หรือลงทะเบียน

ดูข้อมูลตัวอย่างการเก็บข้อมูลจากลูกค้าได้ 2 วิธี

  • วิธีที่ 1 คลิก Download example CSV file
  • วิธีที่ 2 คลิก View Examples

เราสามารถนำ Example CSV file จากวิธีที่ 1 ไปบันทึกข้อมูลลูกค้าแล้วนำมาอัปโหลดจริงได้เลยครับ หรือจะดูตัวอย่างจากการ View Examples จากวิธีที่ 2 ก็ได้ เมื่อคลิกแล้วจะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมา ดังนี้

ตัวอย่างข้อมูลที่สามารถเก็บจากลูกค้าและนำมาใช้กับ Facebook Offline Events ได้

ตัวอย่างการเก็บข้อมูลลูกค้า

Name: คุณสมชาย Event time: 30/08/2019 เวลา 16.00 น.
Event details: ซื้อกระเป๋า ราคา 900 บาท

ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลทุกอย่างนะครับ อันไหนไม่ต้องการสามารถลบออกได้ แนะนำให้เก็บครบทั้ง 3 ประเภท จะทำให้ได้รับข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ

จะเห็นได้ว่า Facebook Offline Events ช่วยให้เจ้าของธุรกิจที่มีหน้าร้านไม่ต้องกังวลว่าถ้าเสียค่าโฆษณาไปแล้ว จะได้ผลลัพธ์มากน้อยแค่ไหน หรือเว็บไซต์ของเรา ส่งผลให้ลูกค้ามาหน้าร้านได้จริงหรือไม่ เพราะเราสามารถ Track ลูกค้าที่เข้าร้านจริงๆ ได้แล้ว และเมื่อวัดผลลัพธ์ได้ ก็ทำให้เราสามารถนำมาปรับโฆษณาให้ดีขึ้นได้นั่นเอง ลองนำไปปรับใช้งานกันดูนะครับ

ข้อมูลอ้างอิงจาก: Facebook Business

#FacebookOfflineEvents #Facebook #MintedAcademy #MydigitalPartner