วันนี้จะมาสรุป 4 แนวทางการทำโฆษณา บนGoogle จากที่พี่มิ้นได้อธิบายสั้นๆ ไว้ใน TikTok และแอบนำข้อมูลจาก Think with Google มาเสริมให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
4 แนวทางการทำโฆษณาบน Google ให้ได้ผลมากที่สุด
1. ใช้ call-to-action ที่ชัดเจนและสอดคล้องกับเป้าหมายของแคมเปญ
การใส่ปุ่ม CTA (call-to-action) นั้นถือเป็นสิ่งจำเป็นลำดับต้นๆ ของการทำโฆษณาบนโลกออนไลน์ที่นักการตลาดพลาดไม่ได้ เพราะเป็นคำที่ใช้สำหรับสะกดจิตลูกค้าของเรา เช่น สั่งจอง ซื้อเลย ทักแชทเดี๋ยวนี้ หยิบใส่ตะกร้าเลย เป็นต้น ฉะนั้นการเลือก CTA (Call-To-Action) จำเป็นจะต้องเลือกให้ถูกต้องและเหมาะกับแคมเปญของเราด้วย
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเหมาะสม?
ต้องมาดูกันที่ วัตถุประสงค์ของแต่ละแคมเปญ ว่าต้องการอะไร อยากให้ลูกค้าทำอะไร เราจะได้เลือกให้สอดคล้องไปกับเป้าหมาย และเพื่อผลลัพท์ที่ดีที่สุดของแคมเปญนั้นๆ มีประโยคหนึ่งมาจาก Google บอกว่า “Without a strong CTA, your audience may not realize what you have to offer” และอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญที่ Google แนะนำมา คือการนำเสนอแบรนด์ของคุณให้เด่นชัด และให้ลูกค้าเข้าใจได้ทันทีว่าคุณนั้นขายอะไร เช่น RealSmart Academy แหล่งเรียนรู้การตลาดออนไลน์ เป็นต้น
2. สร้างครีเอทีฟหลากหลายรูปแบบเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
ปัจจุบันลูกค้าบนโลกออนไลน์มีหลายรูปแบบ หลากความชอบ ฉะนั้นเหล่านักการตลาดแบบเราจำเป็นจะต้องสร้างผลงาน หรือชิ้นโฆษณาให้ครอบคลุมในทุกๆ ความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ รูปภาพ ที่หลากหลาย และสอดคล้องไปกับ CTA ของแคมเปญนั้นๆ หรือวิดีโอ ในหลากคอนเทนต์ เช่น การนำคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานในชีวิตจริงๆของลูกค้า มาใช้ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว และอาจแอบใส่ ไซต์ลิงก์เข้าไป ให้ลูกค้าได้กดไปหน้าเว็บได้เลย
อย่าลืมว่าลูกค้าบนโลกออนไลน์มีมากก็จริง แต่คู่แข่งบนโลกออนไลน์เองก็ไม่น้อยเช่นกัน เมื่อคู่แข่งเยอะ และคู่แข่งพร้อมกว่า ลูกค้าสามารถหนีจากเราไปได้ง่ายๆเลยค่ะ ฉะนั้นเราจำเป็นที่จะต้องพร้อมเสมอเพื่อรับกับลูกค้าในทุกรูปแบบ
3. ทำรูปภาพหรือวิดีโอให้เข้ากับหน้าจอโทรศัพท์
ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าตอนนี้เป็นยุคของ Mobile first จากสถิติใช้โทรศัพท์ในการออนไลน์ ปี2021 ของ We are Social บอกไว้ว่า 97.7 % ของคนไทยออนไลน์ผ่านมือถือ และเฉลี่ยต่อวันละ 5 ชั่วโมง 7 นาที ออนไลน์ผ่านโทรศัพท์ คุณมิ้นให้เราคิดไว้ค่ะ “ ออนไลน์ = โทรศัพท์” สำหรับในยุคนี้ เห็นแบบนี้แล้วนักการตลาดแบบเราจึงจำเป็นที่จะต้องมาใส่ใจในเรื่องการวางคอนเทนต์ต่างๆให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะกับหน้าจอโทรศัพท์ และส่วนสำคัญที่ Google ฝากเอาไว้ เมื่อเราปรับรูปแบบให้อยู่เข้ากับโทรศัพท์แล้วนั้น ข้อมูลต่างๆก็จะเล็กลงด้วย ฉะนั้น ข้อมูล รูปภาพ หรือสื่อต่างๆ จำเป็นจะต้องชัดเจน และต้องน่าสนใจตั้งแต่แรกเห็นค่ะ การจัดวางข้อมูลต้องไม่ตกหล่น และการเลือกใช้สีต้องมั่นใจว่าจะไม่กลืนไปกับเนื้อหาอื่นๆ จนไม่น่าสนใจนะคะ
4. ทดสอบครีเอทีฟหลายๆรูปแบบและให้เวลาครีเอทีฟได้เรียนรู้
หลังจากที่เราได้สร้างสรรค์รูปแบบงานโฆษณา ที่หลากรูปแบบแล้วนั้น ถัดมาที่ขาดไม่ได้คือทดสอบ จะรู้ว่าดี หรือไม่ดี มีประสิทธิภาพ หรือสิ่งที่เราคาดไว้นั้นถูกหรือไม่ จะมาวัดผลกันตอนนี้แหละค่ะ การทดสอบครีเอทีฟนั้น ไม่ใช่ 1 – 2 วันเราจะสามารถทราบผลได้ เราจำเป็นต้องให้เวลาระบบสักหน่อย ให้ระบบได้ปรับตัว
แล้วเวลาเท่าไหร่ล่ะถึงจะพอ?
จากที่ Google แนะนำมา คือ อย่างน้อย 3 สัปดาห์ เพื่อให้ระบบเรียนรู้และสามารถบอกเราได้ว่าโฆษณาตัวไหนควรไปต่อ หรือตัวไหนไม่ได้ไปต่อ
4 ข้อที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ แอดมินได้นำสาระดีๆมาจากคุณมิ้น และ Think with Google ค่ะ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่านนะคะ
ขอขอบคุณ
https://www.thinkwithgoogle.com/intl/th-th/future-of-marketing/creativity/google-ads-best-practice/
We Are Social
•
#RealSmartAcademy #MintedAcademy #คุณมิ้น #podcast #3ขั้นตอนที่จะทำให้คุณเก่งการตลาดออนไลน์
ติดตาม RealSmart Academy ในช่องทางอื่นๆ ได้ที่…
💎FB Page: https://www.facebook.com/realsmartacademy
💎Website: https://www.academy.realsmart.co.th/
🎧Podbean : https://realsmartacademy.podbean.com/
🎧Blockdit: https://bit.ly/3EEq23L
🎥YouTube : https://www.youtube.com/c/RealSmartAcademy