สำหรับการทำธุรกิจและการทำการตลาดในปัจจุบัน เชื่อว่าหลายๆท่านน่าจะเคยเห็นคำว่า First Party Data หรือเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง
แล้วคุณทราบกันไหมคะว่าจริงๆแล้ว First Party Data นั้นมันคืออะไร การเก็บข้อมูลแบบ First Party Data สำคัญอย่างไร?
ก่อนอื่นเรามาลองทำความรู้จักกับคำว่า Data กันก่อนค่ะ
Data (ข้อมูล) ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามแหล่งที่มาของข้อมูล ซึ่งประกอบด้วย
- First party data
คือ ข้อมูล พฤติกรรม ของลูกค้าที่เราสามารถเก็บได้เอง (ต้องขออนุญาตอย่างถูกต้องด้วยนะ) เช่น การสมัครสมาชิกที่ประกอบด้วย ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือ บนเว็บไซต์ของเรา การเก็บข้อมูลผ่าน Google Analytics หรือเก็บข้อมูลผ่าน SDK บนแอปของเราเอง
สรุปง่ายๆ การเก็บข้อมูลของลูกค้า บน Platform ของเราเอง ที่เราสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ด้วยตัวเรานั่นเอง
ข้อดี ข้อมูลค่อนข้างแม่นยำสูง ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้รับการยินยอมอย่างถูกต้อง
ข้อเสีย ข้อมูลค่อนข้างแคบ เพราะข้อมูลจะขึ้นอยู่กับการเข้าถึงของลูกค้าของคุณ และเราจะทราบข้อมูล เท่าที่เราขอข้อมูลของเขา
แล้วจะนำข้อมูลชุดนี้ไปใช้งานต่อได้อย่างไร?
สามารถนำไปทำ Personalized marketing หรือ การตลาดเฉพาะคุณได้ เช่น มีคนเข้ามาบนหน้าเว็บไซต์เรา กดของใส่ตะกร้า แต่ยังไม่ได้ซื้อ เราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาทำเป็นโฆษณา เพื่อเตือนได้ว่า คุณยังไม่ได้จ่ายเงินนะ ต้องรีบซื้อเพราะสินค้าใกล้หมด เป็นต้น
2. Second party data
หลักง่ายๆ คือ First party data ของคนอื่นนั่นเอง
แล้วเราจะรู้ข้อมูลของคนอื่นได้อย่างไร?
เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน ที่เรียกว่า Co – Campaign กัน เป็นการแชร์ข้อมูลของแต่ละฝ่าย จะทำให้ข้อมูลของลูกค้ามีมากขึ้น ทำให้เราเข้าใจในตัวลุกค้ามากยิ่งขึ้น และสามารถสื่อสารได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
ข้อจำกัดที่ต้องเจอ ต้องไปขอความร่วมมือกับคนอื่น อาจมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น และเราไม่สามารถรู้ได้ว่าข้อมูลที่เก็บมา เก็บมาในลักษณะใด อาจไม่สามารถนำมาใช้งานได้จริง
3. Third party data
ข้อมูลที่มีการรวบรวมมาจากหลากหลายแหล่งข้อมูล เช่น Researchของอุตสหกรรม การทำSurvey ของนักศึกษา หรือ การยิงโฆษณาของ Facebook เพราะ Facebook จะทำการรวบรวมข้อมูลจากหลากที่มาเป็นข้อมูลให้เรา เลือกในการยิงโฆษณาตามแต่ละความต้องการของเรา เป็นต้น
ข้อดี ประมาณของข้อมูลจะกว้าง เยอะ และหลากหลายมาก
ข้อเสีย ข้อมูลจะไม่ได้แม่นยำ เท่ากับFirst party data
แล้วจะเลือกใช้ข้อมูลประเภทไหนอย่างไรดี?
อย่างที่ได้กล่าวไว้ ข้อมูลแต่ละประเภทล้วนแต่มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป เราอาจไม่สามารถฟันธงได้เลยว่า ควรใช้ข้อมูลประเภทไหนสำหรับอะไรถึงจะดี เราควรมองว่าข้อมูลประเภทไหน เหมาะสมและตรงกับเป้าหมายของเรามากที่สุดมากกว่า แต่สิ่งที่พี่มิ้นฝากเอาไว้หลักๆ เลยคือ ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไรสิ่งที่จำเป็นต้องทำคือ First party data หรือการเก็บข้อมูลของเราเอง ที่เราเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บตรงๆ เจอหน้าแล้วขอ สมัครสมาชิก หรือเก็บอ้อมๆ จากทาง Platform อื่นๆ ของเรา
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่านไม่มากก็น้อย หากใครชอบรบกวนส่งต่อบทความนี้ไปให้เพื่อนๆของคุณด้วยนะคะ
หากท่านใดอยากทราบเนื้อหาเพิ่มเติมสามารถดูได้จากคลิปด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
ติดตาม RealSmart Academy ในช่องทางอื่นๆ ได้ที่…
💎FB Page: https://www.facebook.com/realsmartacademy
💎Website: https://www.academy.realsmart.co.th/
🎧Podbean : https://realsmartacademy.podbean.com/
🎧Blockdit: https://bit.ly/3EEq23L
🎥YouTube : https://www.youtube.com/c/RealSmartAcademy