เชื่อว่า …แอดมินทุกเพจน่าจะเคยใช้กันมาบ้างแล้วกับ “Facebook Creator Studio” และเมนูส่วนใหญ่ที่แอดมินมักจะใช้กับบ่อยๆ ก็น่าจะเป็นเมนู Content Library ใช่ไหมล่ะครับ? เพราะไม่ว่าจะแก้โพสต์ที่ Draft หรือตั้ง Schedule ไว้ ต่างก็ถูกระบบพาเข้าไปแก้ไขใน Creator Studio กันทั้งนั้น ซึ่งจริงๆ แล้ว Creator Studio มีอะไรที่น่าสนใจให้คุณได้ลองเข้าไปใช้กันอีกมากมายเลยครับ
ไม่ว่าจะเป็น “การที่วิดีโอของคุณสามารถทำเงินได้!” หรือจะ “การสร้างลิขสิทธิ์ให้กับผลงานวิดีโอคุณก็ได้เช่นกัน!” พูดแค่นี้เพจสายผลิตวิดีโอก็น่าจะชอบกันไม่น้อย เพราะฉะนั้น มาดูกันเลยครับว่า …ทำไม Facebook ถึงได้พยายามผลักดันให้ทุกคนไปใช้งานกันที่ Creator Studio? และ Creator Studio มีเมนูอะไรที่น่าสนใจบ้าง?
Creator Studio คืออะไร?
Creator Studio จริงๆ แล้วเป็นเครื่องมือที่เน้นในการช่วยจัดการเรื่องวิดีโอเป็นหลัก เพราะมีทั้งเสียงเพลงสำหรับใช้ประกอบวิดีโอ, เสียงเอฟเฟกต์ให้ใช้ฟรีแบบถูกลิขสิทธิ์ ซึ่ง Facebook ได้ผลักดันให้ผู้ใช้งานเพจได้เข้ามาใช้ Creator Studio ให้มากขึ้น เพราะข้อมูลและฟีเจอร์เกี่ยวกับวิดีโอจะละเอียดกว่าและถึงแม้ฟีเจอร์ส่วนใหญ่จะมีไว้ใช้สำหรับวิดีโอ แต่ก็ยังสามารถจัดการ Content แบบอื่นๆ ได้เช่นกันครับ
8 เมนูหลักของ Facebook Creator Studio
- เมนูหลักของ Creator Studio จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Facebook กับ Instagram จะแยกกันครับ ในส่วนของ Instagram มี 3 เมนู ได้แก่ 1.Content Library, 2.Insights และ 3.Instagram Accounts
- ในส่วนของ Facebook จะมี 8 เมนู ได้แก่ 1.Home, 2.Content Library, 3.Insights, 4.Inbox, 5.Monetization, 6.Rights Manager, 7.Sound Collection และ 8.Pages ซึ่งจำเป็นต้องมีเพจใดเพจหนึ่งก่อน เพราะถ้าเรายังไม่มีเพจ จะมองเห็นเมนูไม่ครบครับ
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/1.png?w=660&ssl=1)
ซึ่งเมนูของ Instagram จะมีไม่มาก เพราะ Content ต่างๆ รวมไปถึง Ads เราจะจัดการกันที่ Facebook เป็นหลักอยู่แล้ว ดังนั้นบทความนี้จะอธิบายโดยอ้างอิงเมนูของ Facebook นะครับ
1.Home
เมื่อเข้ามายัง Creator Studio ก็จะพบกับหน้า Dashboard ได้แก่ Content Insights, Recent Posts ย้อนหลัง 7 วัน ครับ
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/2-1-1024x498.png?resize=660%2C321&ssl=1)
2.Content Library
เมนูนี้จะรวม Content บนเพจต่างๆของเราทั้งหมดไม่ใช่เพียงแค่วิดีโอเท่านั้น มีเมนูย่อยดังนี้
- Post: แสดง Content ที่โพสต์ไปแล้ว, ตั้งเวลาโพสต์ไว้ หรือ ดราฟไว้ ซึ่งเรียกได้ว่าถูกยกมาจาก Facebook Insights เดิมครับ
- Videos You Can Crosspost: คือการอัปโหลดวิดีโอเดียวกัน ลงพร้อมกันหลายๆเพจครับ
- Playlists: เพื่อความสะดวก เราสามารถจัดกลุ่มวิดีโอเป็น Playlists และดูสถิติของแต่ละวิดีโอในแต่ละ Playlist ได้ครับ
- Posts Timeline: เป็นหน้าที่แสดงโพสต์ทั้งหมด เช่นเดียวกับโพสต์ที่อยู่บน Timeline หน้าเพจ
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/3-1-1024x479.png?resize=660%2C309&ssl=1)
3.Insights
สำหรับผู้ที่เคยจัดการระบบหลังบ้านของเพจ อาจจะเคยเห็นเมนูนี้และเคยใช้กันมาบ้างแล้ว และเมนูนี้ก็มีอยู่ใน Creator Studio เช่นกัน แต่แสดงเฉพาะข้อมูลของวิดีโอครับ มีเมนูย่อยดังนี้
- Performance: ประสิทธิภาพของวิดีโอของเรา ซึ่งก็คล้ายๆ กับ Facebook Insights เดิม แต่จะมีเมนูมาเพิ่มคือ Funnel Insights สามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปช่วยในเรื่องการตลาดออนไลน์ และปรับปรุง Content ได้ครับ
- Loyalty: แสดงข้อมูล Follower ของเพจ ที่ดูวิดีโอของเรา
- Audience: แสดงข้อมูลของคนที่ดูวิดีโอของเรา
- Retention: เป็นเมนูที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการรักษาฐานลูกค้า แสดงข้อมูลเป็นกราฟ ว่ายอด views ตกหรือไม่ เพื่อนำไปปรับ Content วิดีโอ ให้ลูกค้าดูวิดีโอให้ไม่น้อยลงไปกว่าเดิม
- Earnings: เมื่อเราเปิดสร้างรายได้ให้กับวิดีโอของเราได้ ยอดรายได้จะแสดงที่เมนูนี้ครับ ซึ่งวิธีการเปิดสร้างรายได้ก็จะบอกรายละเอียดอยู่ในเมนู Monetization
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/4-1-1024x475.jpg?resize=660%2C306&ssl=1)
โดยผู้ใช้บางส่วนจะยังดู Performance และแก้ข้อมูลวิดีโอผ่าน Facebook Insights ได้อยู่ แต่ก็จะมีผู้ใช้บางส่วนเริ่มถูกผลักดันและสนับสนุนให้เปลี่ยนมาใช้ Creator Studio แล้วครับ
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/5-3.jpg?w=660&ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/6-1-1024x839.png?resize=660%2C541&ssl=1)
Facebook Insights ของผู้ใช้บางส่วนจะถูกผลักดันให้ใช้ Creator Studio และเหตุผลที่เราควรเปลี่ยนมาใช้ Creator Studio เพราะมันมีเมนูมาเพิ่มคือ Funnel Insights สามารถดูข้อมูลของวิดีโอได้ละเอียดกว่า Facebook Insights เดิม เมื่อคลิกที่เมนู Funnel Insights ก็จะแสดงข้อมูลตามภาพด้านล่างครับ ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงจำนวนและสัดส่วนของผู้ชมวิดีโอว่าจำนวนผู้ชมในช่วง 3 วินาทีที่ดูต่อไปจนถึง 1 นาทีมีกี่คน สัดส่วนลดลงกี่เปอร์เซ็น และสุดท้ายเมื่อดูตั้งแต่ 1 นาทีขึ้นไป ผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์กับวิดีโอของเรามากน้อยแค่ไหนนั่นเองครับ
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/7.png?w=660&ssl=1)
4.Inbox
เมนูนี้จะรวม Inbox, Comment จากทุกๆ ช่องทาง ให้เราสามารถจัดการได้ภายในหน้าเดียว ทุกอย่างเหมือนกับระบบหลังบ้านเดิมของเพจครับ แค่ยกมาไว้ที่ Creator Studio ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/8-2.png?w=660&ssl=1)
5.Monetization
เป็นเมนูในส่วนของการอนุญาตให้วิดีโอของเรามีโฆษณาแทรกได้ครับ แล้วเราก็จะได้รับรายได้จากยอด Views มีเมนูย่อยคือ
- Payout Settings คือการตั้งค่าว่าเมื่อมีรายได้ จะทำการจ่ายเงินที่บัญชีใด
- Policy Issues คือตรวจสอบว่าวิดีโอของเราสามารถเปิดสร้างรายได้ได้หรือเปล่า ซึ่งต้องมีคุณสมบัติที่สามารถเปิดสร้างรายได้ได้ ดังนี้ Follower ครบ 10,000 คน, มีคนดูวิดีโอเกิน 1 นาทีขึ้นไป ครบ 30,000 Views (นับเฉพาะวิดีโอที่มีความยาวเกิน 3 นาทีขึ้นไป) และเพจต้องไม่เคยถูกรายงานว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ใดๆ อีกด้วย
หากต้องการตรวจสอบว่าเพจของคุณพร้อมสำหรับเปิดสร้างรายได้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ที่ Ad Breaks ครับ (https://facebook.com/business/m/join-ad-breaks)
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/9-1.jpg?w=660&ssl=1)
แนะนำว่าถ้าคุณไม่ได้ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการทำวิดีโอเป็นหลัก ก็ไม่ควรจะเปิดสร้างรายได้ตรงนี้ครับ เพราะโฆษณาที่แทรกมา อาจทำให้ความน่าเชื่อถือของธุรกิจลดลง
6.Right Manager
เป็นเมนูที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ครับ สามารถป้องกันคนอื่นละเมิดลิขสิทธิ์ของเราได้ โดยการอัพโหลดตัวอย่างวิดีโอ เนื้อหา หรือเสียงเพลงที่เราเป็นเจ้าของ ระบบจะตรวจจับวิดีโอที่เข้าข่ายว่าอาจละเมิดลิขสิทธิ์ของเราให้ครับ
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/10-1.jpg?w=660&ssl=1)
ก่อนจะใช้งานเมนูนี้ได้ เราต้องเข้าไป Apply เพจของเราที่ Facebook Rights Manager (https://facebook.com/facebookmedia/solutions/rights-manager) และกรอกข้อมูลเพิ่มเติมครับ
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/11-1-514x1024.jpg?resize=514%2C1024&ssl=1)
7.Sound Collection
ประกอบไปด้วย Tracks และ Sound Effects สามารถนำไปใช้กับวิดีโอต่างๆของเราได้แบบถูกลิขสิทธิ์และไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/12-1024x457.png?resize=660%2C295&ssl=1)
8.Pages
เมนูนี้จะรวมทุกเพจที่เราดูแลอยู่ครับ ดูได้ว่ามีเพจอะไรบ้าง เราได้สิทธิ์อะไรในแต่ละเพจ เช่น Admin, Editor ฯลฯ ดูว่าเพจมี Followers เท่าไหร่ มีคนดูกี่คน สามารถสร้างเพจใหม่ และเพิ่มคนเข้าไปยังเพจต่างๆที่มีอยู่ได้ หลายเพจพร้อมกัน เลือกได้เลยว่าจะให้จัดการเพจไหน แต่ละเพจกำหนดสิทธิ์ไม่เหมือนกันก็ได้ ด้วยวิธีดังนี้ครับ
8.1.ไปที่เมนู Pages > Add Person
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/13-1024x505.png?resize=660%2C325&ssl=1)
8.2.กรอกข้อมูลดังนี้
(1) Add person กรอกชื่อ Facebook หรือ Email ของคนที่เราต้องการเพิ่ม (ต้องเป็นอีเมลที่ใช้ล็อกอิน Facebook )
(2) รายชื่อเพจต่างๆ ให้เลือกว่าต้องการเพิ่มเข้าไปยังเพจไหนบ้าง
(3) ตั้งค่าสิทธิ์ที่จะให้จัดการเพจแต่ละเพจ
(4) กด Save change
![](https://i0.wp.com/www.academy.realsmart.co.th/wp-content/uploads/2020/03/14.png?w=660&ssl=1)
เอาล่ะครับ เริ่มจะมองเห็นประโยชน์ของ Creator Studio กันมากขึ้นแล้วใช่ไหม? ยังไงลองใช้กันดูนะครับ ผมเชื่อว่า Creator Studio จะช่วยทำให้เรามองเห็นได้ชัดขึ้นว่า Video Content แนวไหนได้ผลตอบรับที่ดี และจะปรับ Content ของเราอย่างไร? เพื่อที่จะนำ Content นั้นมาเสริมธุรกิจของเราให้เติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ
#MintedAcademy #MyDigitalPartner #FacebookCreatorStudio